หน้าหลักเว็บข้อมูลโรคมะเร็ง

chat

Thursday, December 15, 2011

คิดก่อนใช้วัคซีนป้องกัน มะเร็งปากมดลูก

ถึงตอนนี้หญิงไทยหลายคนเริ่มคุ้นหูกับ "วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก" กันมากขึ้น หลังจากที่มันเข้ามาสู่สังคมไทยเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการแนะนำของโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง ที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันในราคาที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการตรวจภายในเพื่อค้นหามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก ที่มีบริการฟรีในระบบบริการสุขภาพที่มีอยู่แล้ว

วัคซีนที่ว่านั้นในวงการแพทย์รู้จักในชื่อ "วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV" (Human papilloma virus) แม้จะเป็นวิธีที่เหนือกว่าการตรวจภายใน เพราะเป็นการป้องกันตั้งแต่สาเหตุการเกิดโรค แต่ก็มีข้อจำกัดที่ป้องกันเฉพาะการติดเชื้อไวรัส HPV (เอชพีวี) บางสายพันธุ์
จากรายงานของ "กรองทรรศน์ อัศพัตร" ในนิตยสารฉลาดซื้อ เดือนมกราคม 2550 เรื่อง "วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ใครต้องใช้ ใครต้องจ่าย" พบว่าในช่วงสำรวจเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง ใช้วัคซีนยี่ห้อเดียวคือ Gardasil ของบริษัทเมิร์ค หลายโรงพยาบาลละเลยข้อเท็จจริงที่สำคัญว่า วัคซีนนี้อาจใช้ไม่ได้ผลหากผู้ฉีดเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว เนื่องจากไวรัสเอชพีวี เป็นเชื้อที่ติดผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายมาก ตามสถิติกว่าร้อยละ 80 ของผู้ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ติดเชื้อนี้ แต่ยังพบว่าโรงพยาบาลเชิญชวนให้ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้วมารับการฉีดวัคซีน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังตัดสินใจว่าจะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนตัวนี้ดี "ฉลาดซื้อ" ให้คำแนะนำว่า

1. หากเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว วัคซีนนี้อาจไม่มีประโยชน์กับคุณ เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะผ่านการติดเชื้อมาแล้ว
2. หากได้รับคำชี้ชวนให้ตรวจว่ามีการติดเชื้อเอชพีวีหรือไม่ จงปฏิเสธ เพราะผลที่ได้ไม่แน่นอนพอ
3. ถ้าคุณอายุเกิน 26 ปี ผลตอบสนองจากการฉีดอาจไม่ดีเท่าคนอายุน้อย
4. ถ้าจะฉีดวัคซีนนี้ให้ลูกหลานวัยรุ่น ควรใคร่ครวญให้ดี เพราะช่วงวัยนี้คาบเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และอาจทำให้ลูกหลานเข้าใจว่าคุณส่งสัญญาณ ไฟเขียวให้แล้ว
5. ถ้าคุณสนใจฉีดวัคซีนนี้เพราะเข้าใจว่าจะไม่ต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอีกต่อไป คุณกำลังเข้าใจผิดมหันต์ เพราะวัคซีนนี้ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้เพียงร้อยละ 70
6. ถ้าได้รับข้อมูลว่าวัคซีนนี้ไม่ต้องมีการฉีดกระตุ้น แปลว่าคุณกำลังถูกหลอก เพราะขณะนี้ระยะเวลาในการป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีของวัคซีนนี้ยังไม่เป็นที่รู้แน่ เพราะ อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย
ที่มา : http://www.saranair.com/
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก hpv วัคซีน วัคซีน hpv ราคา

Friday, December 9, 2011

ความรู้เรื่อง HPV วัคซีน HPV

ความรู้เรื่อง HPV วัคซีน HPV
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในสตรีทั่วโลกรองจากมะเร็งเต้านม และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 รองจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอด  แต่ละปีมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 5 แสนคนทั่วโลก   ร้อยละ 80 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ในจำนวนนี้จะเสียชีวิตประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งผู้ที่เสียชีวิตร้อยละ 85 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาเช่นกัน
            สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกา American Cancer Society คาดว่าใน พ.ศ. 2549 จะมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 9,710 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ ประมาณ 3,700 ราย
           
HPV คืออะไร
            HPV ย่อมาจาก Human Papilloma Virus ซึ่งเป็นไวรัสในกลุ่ม Papilloma ที่ก่อให้เกิดโรคในคน ประกอบด้วยสายโมเลกุลของ DNA  ประมาณ 8,000 คู่เบส เรียงตัวกันเป็นรูปวงกลม อยู่ภายในเปลือกหุ้มโปรตีน (Capsid) มียีนทำหน้าที่ควบคุมการสร้างโปรตีน 2 ประเภท คือ
1.      ยีนที่ควบคุมการสร้างโปรตีน เพื่อสร้างเปลือกหุ้ม ( Late protein - L1,L2)
2.      ยีนที่ควบคุมการสร้างโปรตีนเพื่อเพิ่มจำนวนเชื้อ (Early protein – E1,E2,E4-7)
            ปัจจุบันพบ HPV มากกว่า 100 สายพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อของเนื้อเยื่อหรือเยื่อบุผิวในตำแหน่งที่แตกต่างกัน   มีประมาณ 40 สายพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อของเนื้อเยื่อ/เยื่อบุผิวบริเวณ    ano–genital area ซึ่งได้แก่ ปากมดลูก ช่องคลอด ปากช่องคลอด ทวารหนัก ท่อปัสสาวะ และ องคชาต และยังอาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งในหลายอวัยวะ เช่น ช่องปากและลำคอ หรือมะเร็งของผิวหนังบางชนิด  HPV กลุ่มนี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
            1. ชนิดความเสี่ยงสูง หรือชนิดก่อมะเร็ง (Oncogenic / High Risk HPV, HR HPV) ซึ่งพบว่ามีความเกี่ยวโยงกับการเกิดมะเร็งบริเวณ ano–genital ระยะลุกลาม ได้แก่สายพันธุ์ HPV 16,18,31,33,35,39,45,51,52,56,58,59,68 และ 82 โดยสายพันธุ์ที่ก่อปัญหามากที่สุดคือ HPV 16 และรองลงมาคือ HPV 18
            2. ชนิดความเสี่ยงต่ำ กลุ่มนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูกในระดับต่ำ ส่วนใหญ่พบก่อให้เกิดหูดหงอนไก่ (Genital Warts) บริเวณ ano–genital ได้แก่สายพันธุ์ HPV 6,11,40,42,43,44,54,61,72,73 และ 81 ที่พบบ่อยคือ HPV 6 และ HPV 11